วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551

ไป Hanoi มา (ภาค 1)

ขอเล่านิดนึงก่อนจะลืม ด้วยความที่อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 ฝ่า ๆ ขืนทิ้งไว้หลาย ๆ วันต้องลืมแน่นอน ไม่เหมือนสมัยยังสาว ๆ ใครพูดอะไร ประโยคไหน เจอใคร ช๊อตไหน จำได้หมด แต่เดี๋ยวนี้บางทีก็จำหน้าได้แต่ลืมชื่อ จำชื่อได้แต่ก็เรียกสลับไปสลับมา เป็นที่สับสนงุนงงและอเน็จอนาจใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

อ่ะ เริ่มเลยล่ะกัน เสียเวลาพล่ามซ่ะเยอะ ที่ได้ไปฮานอยคราวนี้ ต้องยกผลประโยชน์ และความดีความชอบทั้งหลายทั้งปวงให้คุณพี่หมูอ้วน (หัวหน้ากลุ่ม) เนื่องจากคุณพี่อ้วนเป็นผู้ไปค้นพบตั๋วนกแอร์ไปกลับฮานอย 3 บาท ด้วยความตื่นเต้นดีใจทุกคนพร้อมใจกันสู้เว้ย แต่ลืมไปและหารู้ไม่ว่าค่าน้ำมัน ภาษีสนามบินนั้นยังต้องจ่ายอีกประมาณ 3 พันกว่า ๆ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเมื่อคิดสาระตะดูแล้ว ก็ยังถูกกว่าไปกับการบินไทยประมาณ 2 เท่าครึ่ง สมาชิกที่ตอบรับก็มีพี่อ้วน กับสามี นก จอย ข้าพเจ้า และพี่ปุ้น ขาดแต่ก็เพียงบักต้อง กับบักเดช และวิเศษ เนื่องจากบักต้องและสามียังเป็นประเภทข้าวใหม่ปลามัน จึงยังไม่สมควรออกนอกประเทศในช่วงแต่งงานปีแรก ส่วนวิเศษนั้น เนื่องจากพี้นเพเดิมเป็นชาวฝรั่งเศส จึงได้เคยไปบุกรุกเวียดนามทั้งตอนเหนือและตอนใต้อยู่หลายหน จึงไม่เห็นว่าการไปท่องเที่ยวกับพวกเราด้วยนกแอร์ 3 บาทนั้นจะมีความสนุกสนานและตื่นเต้นยังไง รูปข้างล่างคือเครื่องบินนกแอร์ 3 บาท

ก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือนทุกคนตื่นเต้นกันอย่างมาก มีการทำการบ้านกันอย่างสาหัสสากรรจ์ ประหนึ่งจะไปสอบเอ็นทรานซ์กันอีกรอบ มีการไปสรรหาคู่มือท่องเที่ยวเวียดนามกันมาทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น lonely planet, luxe, honeymoon travel, anywhere หรือแม้กระทั่งข้อมูลต่าง ๆ ที่คุณพี่อ้วนอุตส่าห์เข้าไปเสาะหามาจาก pantip.com แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น พวกที่แบก็แบกันจริง ๆ แบหมายความว่าไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ใครไปไหนก็ไปกัน แต่อย่าให้ชั้นทำอะไรเป็นเด็ดขาด โดยมีข้ออ้างเดิม ๆ ว่า "แหม.. ก็เจ้สมองน้อยนี่ค่ะ เจ้คิดไม่ออกหรอกค่ะว่าจะให้ไปทำอะไรที่ไหนบ้าง พวกเน่กับอ้วนกับจอยจะทำอะไรก็ทำกันเถอะค่ะ ทำไหนทำนั่น เจ้สู้ตาย"...

ด้วยความที่พี่อ้วนขมีขมัน หมั่นส่ง link นู่น link นี่ของสถานที่เที่ยวก็ดี โรงแรมก็ดี รถบัสรับส่ง หรือแม้แต่ร้านอาหารเด็ด ๆ ก็ดี พวกเราทุกคนก็เลยพากันวางใจอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ถ้าพี่อ้วนฟิตขนาดนี้ เราก็ทำเป็นว่า เราทำการบ้านต่อหน้าพี่อ้วนดีกว่า แล้วถ้าถึงฮานอยจริงค่อยไปพึ่งพี่อ้วนเอาก็น่าจะไม่มีปัญหา แต่เหตุการณ์กลับเป็นเช่นนั้นไม่.... พี่อ้วนกลับชั่วกระทันหัน เพียงแค่ 1 วันก่อนไป พี่อ้วนได้ส่งอีเมล์หาพวกเราทุกคนว่า "ใครจะทำอะไรก็ทำ ข่อยแบแล้ว " อ้าว........ไอ้ฉิบหาย แล้วพึ่งมาบอกกันก่อนไป 1 วันเนี่ยนะ...แล้วใครจะไปทำอะไรกันทันก็เล่นแบกันหมดทุกคนแบบนี้ และที่เลวร้ายไปกว่านั้น ด้วยความที่พี่อ้วนฟิตมาก จึงเป็นผู้เดียวที่เพื่อน ๆ ได้มอบความไว้วางใจให้เป็นผู้นำ lonely planet ไปศึกษา เพราะฉะนั้นวันที่พวกเราจะได้ lonely planet กลับมาสู่มาตุภูมิ ก็เป็นวันเดียวกันกับวันเดินทาง และเพียงไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ..ฮ่วย.... ไอ้ห่าพี่อ้วน..

เมื่อไปถึงสนามบิน พวกเราก็คึกคักกันมาก ขนาดลืมไปกันหมดเลยว่ายังไม่มีใครทำการบ้าน ทุกคนก็เอาแต่คุยกับจ๊อกแจ๊ก จอแจว่ามากันยังไง รถติดไม๊ แท๊กซี่ใครขับโง่กว่ากัน อากาศหนาวมาก ๆ เลยรู้ไม๊ ใครเตรียมเสื้อหนาวมาหนากว่ากัน ทำไมพี่อ้วนกระเป๋าใหญ่มากเหมือนจะไปซัก 1 เดือน ทำไมเจ้กระเป๋าเล็กเหมือนจะไปค้างที่พัทยาแค่คืนเดียว กระเป๋าจอยทำไมซิปติด เล็กนินทาพี่อ้วนว่าเอาเสื้อผ้าอะไรก็ไม่รู้มาเยอะแยะไปหมด พี่ปุ้นเอาขนมเปี๊ยะใส้ทุเรียนมาทำอะไร ฯลฯ ที่พากันหาสาระไม่มีเลย ทุกคนเมื่อเช็คอิน ก็พากันไปแลกเงินที่สนามบิน (เตรียมดัวกันดีมาก เงินยังขี้เกียจจะไปแลก แพงกว่าก็ช่างมัน เอาสบายไว้ก่อน) แลกเงินเสร็จก็เฮโลกันไปกินกาแฟที่สตาร์บัคส์ กินกาแฟเสร็จก็รีบไปที่ด่านตรวจคนขาออก ที่รีบก็เพราะจะรีบไปหาอาหารเย็นกินกันในสนามบิน... ไปถึงร้านก็สั่งอาหารกันชุลมุนวุ่นวาย เปรียบเทียบกันไปมาว่าของใครหน้าตาดีกว่ากัน ของใครอร่อยกว่า รสชาดจัดจ้านกว่า กินเสร็จก็พากันไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ แล้วก็พากันไปรอขึ้นเครี่องโดยลืมกันไปหมดว่า ไปถึงฮานอยแล้ว เราจะทำอะไรกันต่อหล่ะเนี่ย... รูปข้างล่างถ่าย

ก่อนขึ้นเครื่องบิน คึกคักน่าดู



เมื่อเครื่องบินขึ้นฟ้า สติสตางค์ก็เริ่มมา ได้เริ่มเอา lonely planet จากกระเป๋าพี่อ้วนมาศึกษาเส้นทาง ดูว่าจะไปไหนบ้าง กินไหนบ้าง แผนที่หน้าตาเป็นยังไง ที่พักเราอยู่ส่วนไหนของแผนที่ ถึงแม้พี่อ้วนจะทำตัวชั่วไว้มากที่บังอาจทิ้งการทำการบ้านของทริปนี้แต่กลางคัน แต่ก็ได้คุณสามี คือคุณเล็กเป็นผู้มาทำความดีไถ่โทษแทนเมีย เชื่อหรือไม่ว่า 6 คนที่ไป มีคุณเล็กคนเดียวที่อ่านแผนที่ออก สามารถจำอะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวกับทิศทาง และถนนได้ประหนึ่งเป็นคนเวียดกงแต๊ ๆ ถ้าไม่ได้คุณเล็ก ทริปนี้เมียและเพื่อน ๆ เมียก็คงจะน้ำตาตกในกันน่าดู ที่ต้องเรียกเล็กว่าคุณเล็ก เพราะพวกเรายังซาบซึ้งในบุญคุณของเล็กอย่างไม่รู้ลืม บนเครื่องเราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ในการศึกษาเมืองฮานอยจนทะลุปรุโปร่งจาก lonely planet เมื่อเห็นว่าพอจะไหวกันแล้ว วางแผนกันได้แม้กระทั่งว่าพอลงเครื่องเสร็จแล้วจากโรงแรมเราจะเดินไปทางไหนเพื่อจะไปกินข้าวร้านไหน ทุกคนก็วางใจ แล้วก็วกกลับมาคุยเรื่องไร้สาระกันต่อไปจนเครื่องลง ...

เมื่อถึงเครื่องลงถึงสนามบินนอยใบ .... อ่ะ รอต่อภาค 2 ล่ะกัน เหนื่อยแล้ว เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเขียนใหม่

ไม่มีความคิดเห็น: